เรียนภาษาไทยอย่างไรให็เก่ง
เมื่อทุกคนลืมตามาดูโลก
ก็จะได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่จนเติบใหญ่ย่างเข้าสู่วัยเรียน
พฤติกรรมของคนที่แสดงออกมาก็คือความอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่งทุกอย่างที่
เกิดขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตนเอง ตามสภาพแวดล้อม สังคม
วัฒนธรรมจากโลกเล็ก ๆ
ไปสู่โลกที่กว้างขึ้น ซึ่งในก้าวแรกที่จะต้องเผชิญก็คือการเรียน
ทำให้เราได้พบกับผู้คนต่างฐานะ
ต่างระดับจากนั้นก็จะมีการศึกษาผู้คนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสังคมได้
เมื่อเข้าสังคมได้แล้วก็ต้องหันมาสู่การเรียน เพื่อให้เกิดความรู้
ความรู้ที่ได้ก็คือการอ่านออก เขียนได้ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น
และช่วยชีวิตของตนเองให้ก้าวเดินไปในโลกใบนี้ได้อย่างปลอดภัย ไร้อุปสรรค
การศึกษาที่เล่าเรียนมาก็จะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ ทำให้มีอาชีพที่มั่นคง
ดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
ปัจจุบันวิชาภาษาไทยไม่เป็นที่สนใจของนักเรียนเท่าที่ควร
ดูได้จากผลการสอบ NT ระดับประเทศอยู่ในระดับต่ำ
จึงจำเป็นต้องพัฒนากระบวนการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนให้มีนิสัยรักการ
เรียนและเรียนภาษาไทยได้ดีขึ้ ได้มีผู้โพสในเว็บบอร์ดของ board.dserver.org
เช่นน้าไผ่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเรียนภาษาไทยให้เก่งดังนี
๑. อ่านอย่างตั้งใจ
๒.
อ่านไปสักย่อหน้ายาวหรือสองย่อหน้าสั้นแล้วรำลึกว่าที่อ่านไปแล้วพูดถึง
เรื่องอะไร สันนิษฐานเองล่วงหน้าว่า
ทีเหลือน่าจะกล่าวถึงอะไรเขียนทายไว้ก่อนเป็นคำ ๆ ก็ได้
๓. ลืมตา อ่านต่อไปจนจบ ค้นดูว่า ที่เราสันนิษฐานไว้ มีปรากฏ อยู่ในตอนต่อ ๆ ไปที่เหลือของเรื่องนั้นหรือไม่
๔.
ถ้าไม่พบสิ่งที่สันนิษฐานไว้ให้ทบทวนใหม่อีกรอบว่าที่อ่านมาแล้วกล่าวถึง
เรื่องอะไรบ้าง เขียนประเด็นสำคัญ ๆ
ที่นึกได้มาตรวจสอบอีกครั้งว่ายังขาดตกในเรื่องอะไรบ้าง
ทำเช่นนี้ไปจนได้ครบทุกประเด็น
๕. นำศัพท์ที่แปลกใหม่ สังเกตตัวสะกด การันต์
วิเคราะห์ดูว่าศัพท์ตัวนี้สามารถแยกออกเป็นคำสองสามคำที่มีความหมายหรือไม่
รวมกันแล้วน่าจะแปลว่าอะไร
สันนิษฐานเองก่อนโดยนำประโยคหรือย่อหน้ามาพิจารณาประกอบว่า
ถ้าแปลว่าอย่างนั้นแล้ว
ความหมายมันจะขัดแย้งกับใจความในประโยคหรือย่อหน้าอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่
ถ้าขัดแย้งลองปรับ คำแปลใหม่ จนรู้สึกว่าไม่ขัดแย้งแล้ว
เปิดพจนานุกรมตรวจสอบดูว่าเราจะแปลใช้ได้ไหม ถ้าตรงกับที่เราแปลอยู่ด้วย
ก็ให้ยิ้มได้เลย
๖. เขียนประโยคหรือข้อความใหม่ที่ประกอบด้วยศัพท์คำนั้น
เทียบกับประโยคที่มีอยู่ว่าจัดวางคำศัพท์ไว้ได้ถูกต้องตามตำแหน่งที่ควรหรือ
ไม่
๗. ถ้าเป็นฉันทลักษณ์ ก็สังเกตจำนวนคำ จำนวนวรรค คำสัมผัส ในบทประพันธ์บทเดิม แล้วลองแต่งของตัวเองดูบ้าง
ถ้ามีประโยคยาว ๆ ลองหัดแยกดู
ว่าจะสามารถแยกออกเป็นสองสามประโยคหรือไม่ ถ้าแยกได้
ประโยคไหนน่าจะทำหน้าที่เป็นประโยคหลัก
ประโยคไหนทำหน้าที่เป็นส่วนขยายของอีกประโยคหนึ่ง ลองหัดแต่งประโยคยาว ๆ
แบบนั้นดูเองบ้าง
จากที่กล่าวข้างต้น
ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่จะช่วยให้นักเรียนเรียนภาษาไทยให้เก่งได้ โดยตนเอง
มีความขยันใฝ่เรียนรู้ อยู่แล้ว ผู้ปกครองก็ต้องคอยดูแล เอาใจใส่
สนับสนุน ให้กำลังใจในการฝึกฝนให้เด็กอ่านหนังสือ
ทำการบ้านอยู่เสมอ
จะเป็นการช่วยสร้างนิสัยการรักการอ่านให้แก่เด็ก
ผลที่เกิดแก่เด็กก็คือสามารถคิดวิคราะห์ สังเคราะห์เรื่องที่อ่านได้
อันจะนำไปสู่การเรียนรู้วิชาอื่น ๆ อีกด้วย
ด้านครูผู้สอนก็ใช้สื่อนวัตกรรมที่หลากหลาย น่าสนใจ ชวนติดตาม
เป็นการยั่วยุให้เด็กเรียนสนุกไม่เบื่อที่จะเรียนนอกจากนี้ก็ยังมีเพื่อนที่
คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันอันจะนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียนภาษาไทย
ให้เก่งได้
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น